เอ็มจี เคาะราคา รถอีวี MG4 ELECTRIC ขาย 8.69-9.69 แสนบาท


เอ็มจี เคาะราคา รถอีวี MG4 ELECTRIC ขาย 8.69-9.69 แสนบาท

เอ็มจี เปิดราคารถยนต์ไฟฟ้า รุ่นล่าสุด รถยนต์ MG4 ELECTRIC ขายเริ่ม 8.69 แสน ลั่น มีรถยนต์พร้อมส่งมอบลอตแรก กลางเดือนธ.ค.นี้

วันที่ 30 เดือนพฤศจิกายน 2565 นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผย ราคาขายรถยนต์ไฟฟ้า รุ่นล่าสุด MG4 ELECTRIC รถแฮตช์แบ็ค ขับเคลื่อนล้อหลังพลังงานไฟฟ้า 100% (EV) ภายใต้แนวความคิด “ICON” ที่เปิดตัวหนแรก มหกรรมยานยนต์ หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป 2022 มี 2 รุ่น ให้เลือก ได้แก่

รุ่น D ราคา 869,000 บาท
รุ่น X ราคา 969,000 บาท

ภายหลังจากบริษัทได้เปิด รับจองรถรุ่นนี้ ก่อนเปิดตัว อย่างทางการผ่านแอพพิเคชั่น MG THAILAND โดยยังไม่เปิดราคา จัดจำหน่ายไปเมื่อกลางเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ใช้ระยะเวลาเพียง 8 ชั่วโมง ในช่วง การเปิดจอง PRE-BOOKING มียอดจองมากถึง 1,598 คัน โดย บริษัทพร้อมส่งมอบรถรุ่นนี้ ได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้ เป็นต้นไป

“ รถ MG4 ELECTRIC ถือเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รุ่นที่ 3 ของเอ็มจี ต่อจาก MG ZS EV รวมทั้ง MG EP ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่น ที่ได้รับกระแส ตอบรับที่ดี และก็สามารถ สร้างภาพจำครั้งใหม่ วันนี้เรา จะสร้างมาตรฐานใหม่และก็ยกระดับประสบการณ์ การขับขี่ของชาวไทย ให้สนุกและเร้าใจกว่าที่เคย พร้อมปูทาง ให้กับตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในประเทศไทย สู่การพัฒนาซึ่งสามารถ ก้าวทันกับอุตสาหกรรมยานยนต์ อีวีโลกปัจจุบัน ”

ก่อนหน้าที่ผ่านมา เอ็มจี มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้า สะสมมากกว่า 6,000 คัน ถือได้ว่าเป็นการตอกย้ำภาพ การเป็นผู้นำอีวีในไทย

สำหรับ MG4 ELECTRIC ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% (อีวี) ที่มีระยะทาง วิ่งได้ไกล 425 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ถือเป็นรถยนต์สไตลล์แฮตช์แบ็ค ขับเคลื่อนล้อหลัง DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE มาพร้อมเทคโนโลยี NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM แพลตฟอร์ม ที่ถูกดีไซน์เพื่อรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะ มีความยืดหยุ่นในการ นำไปปรับใช้กับรถยนต์ ไฟฟ้าได้หลายเซ็กเมนต์ และรองรับแบตเตอรี่ ได้หลากหลายความจุ

ขับเคลื่อนด้วย ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และก็แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร เทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอน แล้วก็ระบายความร้อนด้วยระบบ Liquid Cooling system วิ่งในระยะทางไกลสูงถึง 425 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) มีระบบช่วยชาร์จพลังงาน กลับเข้าสู่แบตเตอรี่ ในขณะชะลอรถ ด้วยระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับ ต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผัน ตามการขับขี่ (ADAPTIVE)

ความสำเร็จของเอ็มจี กับรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง “NEW MG4 ELECTRIC”

“เอ็มจี” ยังคงคอนเซปต์ความเป็นผู้นำ ตลาดรถยนต์ EV ในประเทศไทยได้ดี ล่าสุดส่ง NEW MG4 ELECTRIC รถยนต์แฮตช์แบ็กกำลังไฟฟ้า 100% ตอบรับกระแส EV เมืองไทย โดยชูความเป็น “ICON” นิยาม ของการเป็น “ต้นแบบ” รวมทั้งมาตรฐานใหม่รถยนต์ EV ที่ขับสนุก ฉีกตลาด ด้วยการเป็นรถไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหลัง

การมาของโมเดลนี้ ถือเป็นการยกระดับรถ EV ในทั่วโลก ด้วยนวัตกรรม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ที่ถูกออกแบบและก็พัฒนา มาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ นำเสนอความเป็น BORN TO BE EV ได้ค่อนข้างชัดเจน แบตเตอรี่ถูกจัดตั้ง เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างตัวรถยนต์ การออกแบบ จึงคำนึงถึงความปลอดภัย ของแบตเตอรี่เพิ่มมากขึ้น ผนวกกับนวัตกรรมแบตเตอรี่ ที่บางเพียงแค่ 110 มม. ช่วยเพิ่มพื้นที่ ห้องโดยสาร โดยแพลตฟอร์มนี้ สามารถรองรับแบตเตอรี่ได้หลากหลายความจุ จึงใช้ได้กับรถไฟฟ้าหลากหลาย เซกเมนต์ ตั้งแต่รถยนต์ ขนาดเล็กอย่าง ECO Car ไปจนถึงรถกระบะ เลยทีเดียว

การผลิตจุดเปลี่ยน ให้กับตลาด EV ด้วยการแนะนำ “รถไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง” (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE) ที่มาเติมเต็มสมรรถนะ ของรถพลังงานไฟฟ้า ให้สนุก เร้าใจยิ่งขึ้น ภายใต้มาตรฐาน เดียวกันทั่วโลก ทั้งนวัตกรรม การขับขี่ไปจนดีไซน์ รวมทั้งการเลือกใช้วัสดุด้วย โดยมีจุดเด่น ที่น่าดึงดูด ได้แก่

ICONIC DESIGN สะดุดตาด้วยสไตล์การออกแบบ รถไฟฟ้ายุคสมัยใหม่ ดีไซน์ข้างนอกสปอร์ตรอบคัน โฉบเฉี่ยว ทุกการเคลื่อนไหว การออกแบบตัวรถใหม่แบบ AVANT-GARDE INDUCTIVE DESIGN หลังคาแบบทูโทน สปอยเลอร์หลัง แบบ TWIN ARROW WING ที่ดูแปลกตา ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ครอบด้วย AERO WHEEL COVER เช่นเดียวกับรถไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ ของเอ็มจี

ข้างในห้องโดยสาร เรียบง่ายแต่มีสไตล์ เน้นการใช้งานที่สะดวก ดูโปร่ง โล่งสบาย ด้วยขนาดที่กว้าง มีอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charger) ดีไซน์พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียง พร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์ กระจกมองหลัง แบบตัดแสงอัตโนมัติ หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) ในตำแหน่งคนขับ แล้วก็จอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ลำโพง 6 จุด รองรับการเชื่อมต่อ มัลติมีเดีย Apple CarPlay รวมทั้ง สมาร์ทโฟนระบบ Android Auto พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB ทั้ง TYPE A และ C

ICONIC PERFORMANCE อีวีเลือดใหม่ ที่ขับสนุก แล้วก็เร้าใจ เปิดมิติใหม่ ให้กับการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่โดดเด่นด้านการตอบสนอง ตั้งแต่เริ่มออกตัว ด้วยการกระจายน้ำหนัก แบบ 50:50 ในด้านการขับขี่ ทำให้รถยนต์มีบาลานซ์น้ำหนัก ที่ดีทุกจังหวะขับขี่ ลดอาการโคลง ขณะเข้าโค้ง ผนวกกับการเป็นรถไฟฟ้า ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทั้งยังมีระยะฐานล้อ ซ้าย-ขวา ค่อนข้างจะกว้าง ถ้าเทียบกับรถ ในกลุ่มเดียวกัน ระบบช่วงล่างสมรรถนะ สูงแบบอิสระ 4 ล้อ ที่ช่วยทำให้ล้อตั้งฉากกับพื้น ทั้งหมดนี้ล้วน ช่วยในเรื่องการเกาะถนน ได้ดี เพิ่มความมั่นใจสำหรับการขับขี่ สนุกสนานกับขุมพลังของ NEW MG4 ELECTRIC ได้เต็มที่ กับขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า แบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้พละกำลัง สูงสุดที่ 170 แรงม้า รวมทั้งแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร วิ่งในระยะทาง 425 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่ง ก็พอเพียงสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน

ข้อมูลเกี่ยวกับการชาร์จ

 

– ในการชาร์จแบบ QUICK CHARGE ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% – 80% ใช้เวลาราว ๆ 35 นาที ที่ความเร็วสูงสุด 88 กิโลวัตต์-ชั่วโมง

– สำหรับการชาร์จแบบ NORMAL CHARGE ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาโดยประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที ที่ 6.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง

โดยช่วงเวลาสำหรับในการชาร์จ ขึ้นกับระดับแบตเตอรี่คงเหลือ และกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

NEW MG4 ELECTRIC กลายเป็นรถไฟฟ้า ที่ค่อนข้าง customize สามารถเลือกโหมด การขับขี่ได้ถึง 5 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น SNOW, ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM ความแตกต่าง ของแต่ละโหมด ก็จะเป็นเรื่องน้ำหนักพวงมาลัย อัตราเร่ง และแรงที่จะต้องใช้ในการ เหยียบเบรก ส่วน KERS MODE ระบบชาร์จพลังงาน กลับไปสู่แบตเตอรี่ ขณะชะลอรถ ของรถยนต์รุ่นนี้ ตั้งค่าได้ถึง 4 ระดับ ทั้ง LOW, MEDIUM, HIGH ปัจจุบันมี ADAPTIVE มาเป็นทางเลือกเพิ่มเติม ซึ่ง จะปรับระดับให้อัตโนมัติ ตามลักษณะการขับขี่

ICONIC SAFETY ขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง มาพร้อมระบบโครงสร้าง ตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) มีการจัดตั้งระบบความปลอดภัย มาตรฐานยุโรป ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM มากถึง 26 ระบบรอบคัน หนึ่งในฟังก์ชันใหม่ ที่อยู่ภายใต้ ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART คือ “ระบบตรวจสอบแบตเตอรี่ หรือ BATTERY DOCTOR” ทำหน้าที่ช่วยตรวจสอบคนขับขี่ วิเคราะห์ ให้คำแนะนำกับเจ้าของรถได้ด้วย ซึ่ง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ โดยจะมีการวิเคราะห์ สถานะแบตเตอรี่ ลักษณะการขับขี่ การจอดรถ รวมถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ เช่น แนะนำให้หลีกเลี่ยงการจอดรถยนต์กลางแจ้งในที่อุณหภูมิสูง เป็นต้น มีการประเมินให้คะแนนแบตเตอรี่แบบ REALTIME

อีกหนึ่งเทคโนโลยี ที่ชอบเจอในรถไฟฟ้าโดย MG ใช้ชื่อ INTELLIGENT SMART ACCESS ที่เมื่อผู้ขับขี่ อยู่ในตำแหน่งคนขับ ปิดประตูให้สนิททุกบาน และกุญแจรถยนต์อยู่ในห้องโดยสาร เพียงเหยียบเบรก รถก็จะพร้อมเริ่มเดินทาง สู่โลกกว้าง ส่วนการดับรถ ก็ง่ายเพียงกดล็อกรถยนต์ เครื่องยนต์ก็จะดับอัตโนมัติ เช่นกัน ใช้ควบคู่กับกุญแจดิจิทัล กลายเป็นความสะดวกสบาย ที่เพิ่มเติมเข้ามาในรถยนต์รุ่นนี้

NEW MG4 ELECTRIC ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และก็รุ่น X โดยมีสีตัวถัง ให้เลือกถึง 5 สี คือ สีฟ้า (Brighton Blue) สีดำ (Black Knight) สีแดง (Scarlet Red) สีเทา (Andes Grey) รวมทั้งสีขาว (Arctic White) ตกแต่งภายในด้วยสีดำ (Black) ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ (Grey & Black) ในรุ่น X

จากความมุ่งมั่นสำหรับการก้าวสู่ การเป็นผู้ริเริ่ม ของตลาดรถยนต์ EV ในประเทศไทย “เอ็มจี” ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญสำหรับการสร้างระบบ นิเวศยานยนต์ไฟฟ้า ให้กับลูกค้าที่ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยการพัฒนาสถานีชาร์จ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากกว่า 128 แห่งทั่วประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นด้วย ศูนย์บริการที่สามารถรองรับรถยนต์ไฟฟ้า จาก เอ็มจี ได้ทุกรุ่นกว่า 160 แห่งทั่วประเทศ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวเข้าสู่ยุค ของรถยนต์พลังงาน สะอาดอย่างยั่งยืน